Monday, 10 May 2010

เตือนหน้าร้อนระวังโรคจากตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญมาตรฐานต่ำ


กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เตือนอันตรายจากตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญไม่ได้มาตรฐาน เสี่ยงโรคที่เกิดจากน้ำเป็นสื่อในช่วงหน้าร้อน แนะเลือกใช้บริการจากตู้ที่ไม่ชำรุด มีสภาพสมบูรณ์

ดร.นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึงการเลือกใช้บริการน้ำดื่มจากตู้หยอดเหรียญอย่างปลอดภัยในช่วงหน้าร้อนว่า ปัจจุบันตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญมีให้บริการแพร่หลายมากขึ้น ทำให้ประชาชนสะดวกในการบรรจุขวด โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น ทำให้ความต้องการน้ำดื่มมีมากขึ้นตามไปด้วย ก่อนเลือกใช้บริการจากตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ จึงควรให้ความใส่ใจต่อมาตรฐานของตู้น้ำดื่มที่ให้บริการตามจุดต่างๆ ด้วย เพราะหากน้ำดื่มภายในตู้ไม่สะอาด หรือมีเชื้อโรคปนเปื้อนอยู่ในน้ำจะส่งผลกระทบต่อการเจ็บป่วย ด้วยโรคที่เกิดจากน้ำเป็นสื่อตามมาได้

จากสถิติการเฝ้าระวังโรคติดต่อจากน้ำและอาหาร โดยเฉพาะ โรคอุจจาระร่วงตั้งแต่เดือนมกราคม - 16 มีนาคม 2553 ทั่วประเทศ พบผู้ป่วยรวม 238,026 ราย เสียชีวิต 25 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 377.59 ต่อประชากรแสนคน อัตราการตาย 0.04 ต่อประชากรแสนคน นอกจากนี้ยังเป็นสาหตุ ทำให้เกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคระบบทางเดินอาหารอื่นๆ เช่น โรคบิด ไทฟอยด์ อาหารเป็นพิษ ไวรัสตับอักเสบเอ

ดร.นพ.สมยศ กล่าวต่อไปว่า การเลือกใช้บริการตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญแต่ละครั้งให้สังเกตสภาพภายนอกตู้ต้องสะอาด ไม่สกปรก ทำจากวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน ไม่ผุกร่อน หรือเป็นสนิมจนน่ารังเกียจ จุดติดตั้งต้องมีความสะอาดโดยรอบ ตั้งอยู่บนพื้นที่เหมาะสม มีสุขอนามัย ไม่ใกล้ถังขยะหรือสิ่งปฏิกูล ช่องรับน้ำภายในตู้ต้องสะอาด มีฝาปิดมิดชิด ไม่เป็นคราบสกปรก ปราศจากฝุ่นละอองและคราบอื่นใด หัวจ่ายน้ำต้องเป็นวัสดุที่เหมาะสม เช่น สแตนเลสไม่ควรเป็นท่อพลาสติกหรือสายยาง และที่สำคัญต้องสะอาดไม่เป็นตะไคร่หรือมีสิ่งสกปรกบริเวณ หัวจ่ายน้ำ ซึ่งต้องไม่มีกลิ่นทุกชนิดปนมากับน้ำหรือมีกลิ่นโชยขณะกดน้ำ หรือจากช่องจ่ายน้ำ รวมทั้งมีสติกเกอร์การตรวจรับรองที่มีมาตรฐาน น่าเชื่อถือ และต้องระบุชื่อผู้ตรวจ ชื่อบริษัท วันเวลาที่มาตรวจด้วย

“ทั้งนี้ ควรให้ความสำคัญกับการนำขวดพลาสติกหรือภาชนะอื่นๆ มารองน้ำจากตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ โดยหมั่นทำความสะอาดภาชนะเหล่านั้นเป็นประจำ และก่อนการนำมาใช้ซ้ำทุกครั้งต้องล้างขวดให้สะอาด โดยใช้น้ำเขย่าให้ทั่วภาชนะแล้วเททิ้ง ทำเช่นนี้ประมาณ 1-2 ครั้ง แต่ถ้ามีเวลามากพอก็ควรจะล้างภาชนะดังกล่าวด้วย น้ำยาล้างจาน โดยใช้แปรงขนอ่อนขัดล้าง ไม่ควรใช้แปรงขนแข็งเพราะจะทำให้เกิดรอยขีดข่วนและเป็นแหล่งสะสมเชื้อจุลินทรีย์ จากนั้นจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด เสร็จแล้วจึงนำไปเติมน้ำจากตู้น้ำต่อไป” อธิบดีกรมอนามัยกล่าวในที่สุด
บทความจาก..เว็บ สสส.

No comments:

Post a Comment